ปัญหาขององค์กรพัฒนาเอกชนที่นับถือศาสนาคือพวกเขาไม่มีทางออกที่เป็นรูปธรรม พวกเขามีภารกิจที่จะทำเงิน พวกเขามีภารกิจที่จะแสวงหากำไรจากความเปราะบางและความยากจนของเด็กสาวไทย สำหรับแดเนียล วอเปลและภรรยาของเขา ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของศูนย์ทามาร์ในพัทยา นี่เป็นเพียงการตัดสินใจเรื่องอาชีพเท่านั้น นี่คือโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตในเมืองพัทยาริมทะเลที่สวยงาม ใครจะไม่คว้าโอกาสนี้ในการหลอกลวงเงินหลายล้านดอลลาร์จากผู้นับถือศาสนาและแสร้งทำเป็นว่าคุณกำลังแก้ปัญหาให้กับเด็กสาวไทยอยู่ล่ะ มาดูภารกิจที่ศูนย์ทามาร์วางไว้กันดีกว่า ย่อหน้าด้านล่างนี้มาจากเว็บไซต์ของศูนย์ทามาร์

“ที่ Tamar Guest House เรามีวิสัยทัศน์ที่จะให้บาร์เกิร์ลและสาวประเภทสองทุกคนออกจากบาร์ในพัทยา ประเทศไทย มีชีวิตใหม่ กลายเป็นสาวกของพระเยซู และมีทักษะอาชีพที่ขายได้เพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว เรามุ่งหวังให้ผู้หญิงทุกคนที่ทำงานใน Tamar Guest House กลายเป็นสาวกของพระเยซู มีความสมบูรณ์ทางอารมณ์ และสามารถหางานทำและรักษาอาชีพไว้ได้โดยใช้ทักษะที่เรียนรู้ขณะอยู่ที่ Tamar Guest House ซึ่งเราจะทำสำเร็จได้ด้วยการสอนอุตสาหกรรมการบริการ รวมถึงการจัดการการจอง การจัดการงานอีเว้นท์ การดำเนินงานแผนกต้อนรับ บริการคอนเซียร์จ แม่บ้าน ซักรีด การบำรุงรักษา และแผนกต้อนรับ นอกจากนี้ ผู้หญิงแต่ละคนจะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับทักษะการเข้ากับผู้อื่น ความเป็นมืออาชีพ การแต่งกาย และการบริการลูกค้า การฝึกอบรมอื่นๆ ได้แก่ ความรับผิดชอบ ทักษะการฟัง การสื่อสาร การแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีม”

มีปัญหาหลายประการที่ต้องจัดการ คุณจะเห็นได้ว่าพวกเขารวมกลุ่ม “เลดี้บอย” ในคำชี้แจงบนเว็บไซต์ของพวกเขา แต่ในความเป็นจริง พวกเขาไม่ได้ทำการเข้าถึงบาร์ที่มีเลดี้บอยทำงานเลย อาสาสมัครชาวตะวันตกไม่เชื่อในสิทธิของคนข้ามเพศและคัดค้านการเป็นเกย์อย่างรุนแรง ศูนย์ Tamar ต่อต้านชุมชนเกย์และข้ามเพศอย่างชัดเจน คุณจะรู้ได้อย่างไร? อ่านวิธีที่พวกเขาบอกซ้ำในย่อหน้าหนึ่งว่าพวกเขาต้องการให้ผู้หญิงที่ทำงานใน Tamar Guest House ทุกคน “เป็นสาวกของพระเยซู” อีกครั้งที่พวกเขาบอกว่า “ต้องการให้ผู้หญิงที่ทำงานใน Tamar Guest House ทุกคนออกไปเป็นสาวกของพระเยซู” ศาสนาคริสต์สายพันธุ์อีแวนเจลิคัลและตะวันตกสอนว่าการเป็นเกย์เป็นบาป การเข้าถึงชุมชนเลดี้บอยหรือชุมชนเกย์ในพัทยามีน้อยหรือแทบไม่มีเลย เมื่ออาจารย์สอนภาษาอังกฤษจาก Tamar Center มาถึงเพื่อทำการกิจกรรมในวันวาเลนไทน์ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการเข้าถึงชุมชนเกย์

ศูนย์ทามาร์เชื่อว่าเยซูคือทางเดียวสู่ชีวิต พวกเขาใช้ศาสนาในการควบคุมผู้หญิง ทำให้พวกเธอหันหลังให้กับการเลี้ยงดูในศาสนาพุทธ ดาเนียลและภรรยาของเขารู้ว่าพวกเขาสามารถบังคับผู้หญิงให้ทำตามคำสั่งและทำงานในค่าจ้างที่ต่ำมากได้ หากพวกเธอเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ ศูนย์ทามาร์ได้ทำการโจมตีศาสนาพุทธและใช้ความยากจนของผู้หญิงไทยเพื่อเพิ่มรายได้ของตัวเอง

ในเว็บไซต์ของศูนย์ทามาร์ มีการอธิบายเกี่ยวกับผู้หญิงที่พวกเขาทำงานด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงจากภาคอีสาน.

ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มาจากภาคอีสาน ซึ่งเป็นภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่ยากจนที่สุดของประเทศไทย มีประชากรประมาณ 22 ล้านคน ส่วนใหญ่ทำงานในเกษตรกรรม ผู้คนอาศัยอยู่จากการทำการเกษตร โดยส่วนใหญ่เป็นการทำนาข้าว ราคาข้าวไม่คงที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และการทำนาข้าวเป็นงานที่ต้องใช้แรงงานทางกายภาพอย่างหนัก น้ำท่วมและปัญหาอื่นๆ ก็ส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยวและมีความยากจนอย่างแพร่หลาย และหลายคนก็มีหนี้สิน ผู้ชายหนุ่มส่วนใหญ่จะออกจากชนบทไปหางานและความมั่นคงทางการเงินในเมืองใหญ่

สาวหลายคนแต่งงานกันตั้งแต่อายุน้อย และมักจะพบกับปัญหาการแต่งงานที่ล้มเหลว ทำให้พวกเธอเป็นผู้ดูแลลูกและพ่อแม่ที่ชราของตนเอง โดยต้องรับภาระทางการเงินที่หนักหน่วง แต่เนื่องจากการศึกษาที่น้อยและขาดประสบการณ์ทำงาน ทำให้พวกเธอมีทางเลือกที่จำกัด พวกเธอมักจะได้ยินเรื่องราวจากผู้หญิงที่พบสามีในพัทยาและหวังว่าจะได้พบกับตอนจบแบบเทพนิยายเช่นเดียวกัน พวกเธอจึงรู้สึกสิ้นหวัง และพัทยาจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของพวกเธอ แต่เมื่อมาถึงพัทยา ความจริงก็เริ่มปรากฏอย่างรวดเร็ว และพวกเธอก็ตระหนักว่า ตัวเลือกเดียวที่แท้จริงของพวกเธอในพัทยาคือการขายตัว

นี่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับผู้หญิงจากภาคอีสาน ค่าจ้างที่ไม่พอเลี้ยงชีพจะช่วยเหลือหมู่บ้าน ชุมชน หรือครอบครัวที่อยู่ในภาคอีสานได้อย่างไร? Daniel และภรรยาของเขาทำเงินได้มากมายจากองค์กรที่เป็นเพียงฉากบังหน้า พวกเขาฉวยโอกาสจากความยากจนของผู้หญิงเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากครอบครัวเกษตรกรและชาวนาที่มีรายได้ต่ำ

การสอนพวกเธอให้ทำงานในเบเกอรี่หรือโรงแรมจะช่วยเหลือประชากร 21.3 ล้านคนในภาคอีสานได้อย่างไร? ในภาคอีสานมีโรงแรมและร้านเบเกอรี่น้อยมาก ประมาณ 40% ของประชากรไทยมาจากภูมิภาคนี้ ศูนย์ Tamar อาจฟังดูดีในทางทฤษฎี แต่ในความเป็นจริง มันเป็นเพียงช่องทางให้มิชชันนารีตะวันตกเข้ามาทำเงินผ่านศาสนา

พวกเขาไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงให้กับชุมชนต้นทางของผู้หญิงเหล่านี้ ศูนย์ Tamar เองก็ยอมรับว่าผู้หญิงเหล่านี้สิ้นหวังและต้องการหาเงินไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม และ Daniel ก็ใช้โอกาสนี้เพื่อหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง

ความจริงคือ ผู้หญิงเหล่านี้ไม่ได้ต้องการออกจากบาร์ และไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่พวกเธอเลือกในพัทยา เพราะพวกเธอสามารถทำเงินได้มากกว่าการทำงานให้กับมิชชันนารีตะวันตก หากศูนย์ Tamar สามารถให้ค่าจ้างที่เพียงพอและช่วยให้ผู้หญิงเหล่านี้สามารถเลี้ยงดูครอบครัวของพวกเธอในภาคอีสานได้ นั่นคงเป็นสิ่งที่ดี

แต่ในความเป็นจริง นี่คือการต่อต้านศาสนาพุทธ และเป็นเพียงเครื่องมือให้ชาวคริสต์ตะวันตกแสวงหาผลกำไร